Archives 2023

Skincare Routine

ขั้นตอนสกินแคร์รูทีนที่จะช่วยให้ใบหน้าของเราสวยใสไร้สิว

เพราะผิวหน้าของเรานั้นจะต้องโดนแสงแดดด ฝุ่นควัน และมลภาวะมากมายทาครีมยังไง ล้างหน้าแบบไหน หน้าก็ยังหมองคล้ำ มีจุดด่างดำ แถมสิวก็มา ซึ่งอาจจะเป็นผลมาจากทีนของคุณไม่เหมาะสม มากเกินไป น้อยเกินไป รวมไปถึงการใช้งานที่ไม่ถูกต้องด้วย จึงทำให้การบำรุงนั้นไม่ได้ผลนั่นเอง ดังนั้นวันนี้มาดูขั้นตอนการ้สกินแคร์ที่จะช่วยให้หน้าของเราสวยใสไร้สิวกันเลย

การทำความสะอาดผิว

สำหรับไนท์รูทีนสิ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลยคือการทำความสะอาดผิว  ซึ่งการทำความสะอาดผิวหน้าถือว่าเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุด ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ช่วยชะล้างสิ่งสกปรกมากมายที่ผิวของเราเผชิญในแต่ละวัน จึงไม่สามารถข้ามข้อนี้ไปได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลประการใดก็ตาม

ใช้โทนเนอร์เช็ดผิวหน้า  

หลังจบขั้นตอนการทำความสะอาดผิว ให้ใช้โทนเนอร์เช็ดผิวทันที เพื่อให้นำรูขุมขนกำลังเปิดหลังล้างหน้า เข้าสู่ระยะการเตรียมผิว พร้อมรับการบำรุง โดยโทนเนอร์จะมีหน้าที่เข้าไปเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว พร้อมให้สกินแคร์ซึมซาบลงสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก 

ลงเอสเซนซ์หรือน้ำตบ

การบำรุงหน้าด้วยเอสเซนซ์หรือน้ำตบ จะช่วยลดวงจรของการเกิดสิว อีกทั้งส่วนใหญ่ยังมีคุณสมบัติที่ช่วยควบคุมความมันด้วย นอกจากนี้การใช้น้ำตบยังช่วยปรับสภาพผิวให้สมดุล พร้อมมอบความชุ่มชื่นให้ผิวแข็งแรง พร้อมสู่การลงสกินแคร์ในขั้นตอนต่อไป

Serum ฟื้นบำรุงผิวและแก้ไขปัญหาผิวตรงจุด

เซรั่มเป็นผลิตภัณฑ์ที่ส่วนผสมของ Active Ingredient สูง ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก ในปัจจุบันเซรั่มมีอยู่หลากหลายสูตร เช่นช่วยบูสความชุ่มชื่น ช่วยลดจุดด่างดำ และช่วยลดริ้วรอยเป็นต้น

Moisturizer เพิ่มความชุ่มชื้น

หัวใจสำคัญของการบำรุงผิวคือการใช้มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ เป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้เช่นกัน เพราะหน้าที่หลักของมอยซ์เจอไรเซอร์ก็คือการช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวและปกป้องการสูญเสียน้ำในผิวในช่วงระหว่างวัน มอยซ์เจอไรเซอร์จะช่วยปกป้องผิวชั้นบนสุด (Skin Barrier) ให้ชุ่มชื่นและมีความสมดุ

ทาครีมกันแดด 

ปิดท้ายขั้นตอนการลงสกินแคร์ ด้วยการทาครีมกันแดด ที่เป็นเหมือนการสร้างเกราะป้องกันให้กับผิว เพราะครีมกันแดดเปรียบเหมือนโล่ด่านแรกที่จะกันมลภาวะ และแสงแดดที่มีรังสีอัลตราไวโอเลตที่ทำร้ายผิว ไม่ให้มาสัมผัสกับผิวพรรณโดยตรงได้

สั่งซื้อสกินแคร์สุดคุ้มที่ Lazada LazFlash ช่วยเปย์  พบกับดีลเด็ด ลดหนัก จัดเต็ม ที่ลาซาด้าจะช่วยคุณจ่าย เหมือนได้ส่วนลดเพิ่มไป สามารถเข้าไปสั่งทุกวันที่ LazFlash ที่ ลาซาด้าเท่านั้น 

ขนส่งพัสดุ

การขนส่งพัสดุมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?

หลายคนคงรู้ดีว่าอยากขนส่งสินค้าต้องใช้บริการขนส่ง แต่น้อยคนนักจะรู้ว่าการขนส่งพัสดุจริง ๆ แล้วมีกี่ประเภท หากลองแยกดูอาจมีเยอะจนเราแปลกใจ สำหรับคนทั่วไปไม่จำเป็นต้องศึกษาอะไรมากก็ได้ แต่สำหรับเจ้าของกิจการไม่ว่าจะรายเล็กรายใหญ่จำเป็นต้องรู้ เวลาใช้บริการจะได้เลือกประเภทสินค้าและประเภทรถได้อย่างเมาะสม

การขนส่งพัสดุมีกี่ประเภท อะไรบ้าง?

1. การขนส่งสินค้า (Goods)

แบ่งออกเป็น 3 ประเภทตามราคาและความเร็ว ดังนี้

  • สินค้าส่งด่วนพิเศษ อาจคิดตามน้ำหนักหรือระยะทาง และราคาขึ้นอยู่กับประเภทรถ เช่น มอเตอร์ไซค์ 7 – 14 บาทต่อกิโลกรัม รถเก๋ง 12 บาทต่อกิโลกรัม กระบะ 4 ประตู 15 บาทต่อกิโลเมตร เป็นต้น
  • สินค้าลงทะเบียน อาจคิดตามน้ำหนัก เช่น 0 – 10 กิโลกรัม 16 – 45 บาท 500 – 1,000 กิโลกรัม 48 – 60 บาท เป็นต้น
  • สินค้าธรรมดา การจัดส่งไม่เร็ว แต่ราคาถูกสุด

2. การส่งแบบเก็บเงินปลายทาง

ทางเลือกเสริมการขนส่งประเภทอื่น ๆ เพื่อให้การดำเนินการรวดเร็วมากขึ้น ค่าใช้จ่ายอาจบวกลบเพิ่ม 10 – 20 บาท (บางที่) มั่นใจว่าผู้รับได้ของและผู้ส่งได้เงิน 100%

3. การส่งเอกสาร มีให้เห็น 3 รูปแบบ ดังนี้

  • ส่งแบบด่วน หรือ EMS ถึงปลายทางไม่เกิน 1 – 2 วัน ราคาต่างกันตามประเภทรถขนส่ง
  • ส่งแบบลงทะเบียน ถึงปลายทางไม่เกิน 2 – 5 วัน ราคาต่างกันตามประเภทรถขนส่ง
  • ส่งโดย Messenger ค่าส่งไม่แพงเริ่มต้นเพียง 35 บาท เลือกได้ด้วยว่าจะส่งด่วนหรือธรรมดา หรือคิดตามระยะทางเริ่มต้น 6.9 – 8.5 บาท

4. การขนส่งพัสดุประเภทสินค้าเวชภัณฑ์

ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด เพราะยาแต่ละประเภทต้องอยู่ภายใต้อุณภูมิที่เหมาะสม หรือสภาพแวดล้อมที่ไม่ทำให้ยาเสื่อมสภาพ โดยการนำเทคโนโลยีเข้าช่วย เช่น ติดตามตำแหน่งแบบ Real Time, ติดตั้ง GPS ฯลฯ ราคาส่งค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการส่งพัสดุอื่น ๆ

5. พัสดุเน่าเสียง่าย

พัสดุต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันการเน่าเสีย โดยมีสาเหตุจากแมลง การปนเปื้อน ความเสียหายทางกายภาพ หรือความเสียหายจากตู้ทำความเย็น (หากความเย็นไม่เหมาะสมอาจทำให้สินค้าเสียหายง่าย) ส่วนใหญ่เป็นการขนส่งสินค้าที่มีเวลาเข้ามาเกี่ยว เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ฯลฯ พร้อมกันนี้ยังใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น GPS เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ เพื่อให้การขนส่งสินค้าถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย ส่วนราคาค่อนข้างสูง

เห็นหรือไม่ว่าการขนส่งพัสดุมีหลายประเภท หากเลือกได้ไม่เหมาะสมอาจส่งผลต่อคุณภาพของพัสดุ ดังนั้นบรรดาของกิจการควรรู้และศึกษาเอาไว้ เวลาต้องส่งสินค้าจริง ไม่ว่าจะเป็นพัสดุ เอกสาร สินค้าเวชภัณฑ์ หรือสินค้าเน่าเสียง่ายส่งตรงถึงปลายทางอย่างปลอดภัย คุณภาพไม่ต่างจากตอนก่อนบรรจุใส่กล่องหรือหีบห่อ