Category Lifestyle

 หากเกิดคำถามขึ้นมาว่า ต่อประกันรถยนต์ ที่ไหนดี ก่อนสิ่งอื่นใดนั้น เรามาทำความรู้จักกับการรต่อประกันรถยนต์กันก่อน ซึ่งการต่อประกันรถยนต์ หมายถึง การที่บุคคลหนึ่งซึ่งเรียกว่า “ผู้เอาประกันภัย” ได้โอนความเสี่ยงภัยเกี่ยวกับรถยนต์ไปให้บุคคลอื่นซึ่งเรียกว่า “ผู้รับประกันภัย” รับเสี่ยงภัยแทน โดยผู้เอาประกันภัยจะต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งเรียกว่า “เบี้ยประกันภัย” ให้กับผู้รับประกันภัย เป็นการตอบแทนที่ผู้รับประกันภัยยอมรับความเสี่ยงภัยไว้แทน  หากรถยนต์คันที่เอาประกันภัยไว้เกิดอุบัติเหตุ 

ทำให้เกิดความเสียหายแก่ตัวรถยนต์ หรือแก่ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลที่โดยสารอยู่ภายในรถยนต์ ตลอดจนบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหายจากรถยนต์ที่เอาประกันภัยคันดังกล่าว ผู้เอาประกันภัย 

จะได้รับการชดใช้ค่าเสียหายที่เรียกว่า “ค่าสินไหมทดแทน” โดยผู้รับประกันภัยจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 

ให้ตามจำนวนค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่เกินจำนวนเงินที่ได้ตกลงทำสัญญาไว้ 

5 บริษัทรับต่อประกันรถยนต์ที่ขึ้นชื่อว่าคุ้ม! 

• วิริยะประกันภัย – เริ่มที่บริษัทที่มีการแนะนำแบบบอกต่อมากที่สุด และจัดเป็นบริษัทที่เก็บเบี้ยประกันแพงที่สุดด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นด้วยบริการที่ดีเยี่ยม ก็ทำให้เรื่องเบี้ยประกันนั้นเป็นเรื่องรองไป แถม วิริยะประกันภัย ยังมีสาขาและจุดให้บริการมากอีกด้วย 

• กรุงเทพประกันภัย – นี่คือบริษัทชั้นนำที่มาคู่กับวิริยะประกันภัย เก็บเบี้ยในเรทที่ไม่ทิ้งกันมาก แม้ว่าจุดบริการอาจจะไม่กระจายตัวมากเท่าวิริยะ แต่ กรุงเทพประกันภัยรถยนต์ ก็เด่นเรื่องการเคลม ที่เขาว่าเคลมง่าย ไม่มีปัญหา 

• สินมั่นคงประกันภัย – บริษัทนี้กินส่วนแบ่งตลาดรองจากวิริยะประกันภัย แต่คนแนะนำต่อไม่ดุเดือดเท่ากับกรุงเทพประกันภัย เพราะมีปัญหาเรื่องติดต่อยากเล็กน้อย อย่างไรก็ตามการซ่อมอู่นั้นบริการดีมากจนหลายคนติดใจเหมือนกัน 

• ประกันคุ้มภัย – ที่นี่เด่นเรื่องเคลมไว เบี้ยไม่ขึ้น ยิ่งถ้าไม่เคลมเลยมีลดเบี้ยให้ด้วย หลายคนเลยชอบกัน แต่ถ้าเป็นเขตต่างจังหวัดก็จะมีอู่ซ่อมน้อยไปหน่อย 

และบริษัทรับต่อประกันรถยนต์สุดท้าย คือ เมืองไทยประกันภัย – ปิดท้ายที่ตัวนี้ เบี้ยถูกพอสมควรเมื่อเทียบกับบริษัทต้นๆ ที่กล่าวไปแล้ว คนที่ไม่ค่อยมีปัญหาจึงถูกอกถูกใจที่นี่กัน แต่ติดที่มาตรฐานการบริการเล็กน้อย คือบางที่ก็บริการดีมาก บางที่ก็ทำเรื่องเคลมให้ช้าไปบ้าง หากรับได้ก็ไปทำโลด 

อย่างที่ทราบกันดีว่า ในปัจจุบันนั้นได้กลายเป็นสังคมของผู้สูงอายุไปแล้ว เพราะมีเปอร์เซ็นต์ผู้สูงอายุมากกว่าช่วงวัยอื่นๆ ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องเห็นผู้สูงอายุจำนวนมากเจ็บออดๆแอดๆ ด้วยโรครุมเร้า ฉะนั้น บทความนี้จึงได้รวบรวมโรคที่มักพบได้บ่อยในผู้สูงอายุมาฝากกัน เพื่อให้ลูกหลานตระหนักถึงความสำคัญของโรคในผู้สูงอายุมากขึ้นนั่นเอง 

3 โรคร้ายที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ 

• โรคในผู้สูงอายุ : โรคเกาต์ มักพบในชายสูงอายุมากกว่าหญิง ทำให้เกิดอาการปวดตามข้อ ซึ่งเกิดจากการมีกรดยูริกสะสมในร่างกายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะตามข้อ ซึ่งคนแต่ละวัยมีระดับกรดยูริกในเลือดที่แตกต่างกัน เช่น ผู้หญิงวัยก่อนหมดประจำเดือนจะมีระดับกรดยูริกในเลือดสูงกว่าคนในวัยอื่นๆ หรือการรับประทานอาหารที่มีสารพิวรีนสูง เช่น เนื้อเป็ด เนื้อไก่ เครื่องในสัตว์ ถั่วต่างๆ ก็เป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดกรดยูริกในร่างกายมากเกินไป 

• โรคในผู้สูงอายุ : โรคเบาหวาน เป็นความผิดปกติของร่างกายที่มีการผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ อันส่งผลให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงเกิน ก่อให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ปัสสาวะและกระหายน้ำบ่อย ดื่มน้ำในปริมาณมากต่อครั้ง อ่อนเพลีย น้ำหนักตัวลดโดยไม่มีสาเหตุ และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ เช่น ตาพร่ามัว ตาบอด ไตเสื่อม ชาตามปลายมือปลายเท้า และอาจติดเชื้อได้ง่าย 

• โรคในผู้สูงอายุ : โรคระบบทางเดินปัสสาวะ ผู้ชายสูงอายุ ส่วนใหญ่เป็นโรคต่อมลูกหมากโตจนกดท่อปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะบ่อยโดยเฉพาะตอนกลางคืน ปัสสาวะออกไม่หมดทำให้เหลือบางส่วนไว้ในกระเพาะปัสสาวะ อันเป็นสาเหตุของการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้ ผู้หญิงสูงอายุ มักกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ อาจเกิดจากระบบประสาท สุขภาพจิต กระเพาะหรือทางเดินปัสสาวะผิดปกติ เช่น เกิดการอุดตัน การติดเชื้อ หูรูดไม่ดี 

อย่างไรก็ตาม โรคเหล่านี้จะไม่เป็นปัญหาเลยถ้าลูกหลานหมั่นดูแล และหมั่นพาไปตรวจเช็คสุขภาพผู้สูงอายุอยู่เสมอ ทั้งนี้ ก่อนจะจากกันไป เราอยากแนะนำ Products ดีๆ ที่เหมาะกับผู้สูงอายุสักหนึ่งตัว นั่นก็คือ รถสองล้อไฟฟ้านั่นเอง ซึ่งรถสองล้อไฟฟ้านี้ เป็นรถที่ใช้งานได้ง่าย เด็กใช้ได้ วัยรุ่นใช้ดี แถมผู้สูงอายุก็สามารถใช้ได้สบายๆ อีกทั้งรถสองล้อไฟฟ้ายังมีระบบรักษาความปลอดภัยมากมายอีกด้วย บอกเลยว่า ลูกหลานทั้งหลาย ควรหาซื้อรถสองล้อไฟฟ้าดีๆ จากร้านขายรถสองล้อไฟฟ้า ครบวงจร สักคันไว้ให้ผู้สูงอายุที่บ้านแล้วล่ะ 

“เครื่องปรับอากาศ” หนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สำคัญในประเทศไทย  เพราะอย่างที่เรารู้กันว่าประเทศไทยนั้นเป็นประเทศที่ค่อนข้างร้อน หนึ่งในสิ่งอำนวยความสะดวกที่สำคัญในเรื่องนี้คือ แอร์นั้นเอง และสำหรับคนที่กำลังจะติดแอร์ วันนี้เรามีเกล็ดความรู้เล็ก ๆ น้อยมาฝากกัน เพื่อเอาไว้เผื่อเป็นประโยชน์ในการติดแอร์ของท่านนะครับ

ทาสีบ้านให้อ่อน 

ลักษณะเดียวกับเสื้อที่เราใส่อยู่นั้นละครับหากเป้นสีดำ หรือ เป็นสีที่ทึบ แสงนั้นจะเข้ามาหามากขึ้น โดยเฉพาะสีดำที่เป็นสีที่ดูดแสงได้มากที่สุด ดังนั้นหากมีบ้านที่เป็นสีอ่อนอยู่แล้วการติดตั้งแอร์นั้นจะช่วยให้บ้านเย็นขึ้นเพราะแอร์ไม่ต้องทำความเย็นมาก เครื่องก็จะทำงานไม่หนักเกินไป

ใช้ผ้าม่านกันแสง 

อีกข้อที่สำคัญที่จะช่วยให้บ้านเรานั้นเย็นขึ้นโดยที่ค่าไฟไม่ต้องเพิ่มขึ้นนั้นคือการใช้ผ้าม่านกันแสงที่จะช่วยให้บ้านของเราเย็นขึ้นขณะเดียวกันแอร์เราก็ไม่ได้ทำงานหนักขึ้นด้วยนั้นก็เพราะว่าผ้าม่านกันแสงจะช่วยกันแสง UV ที่จะเข้ามาในบ้านและทำให้อุณหภูมิในห้องสูงขึ้นนั้นเอง 

อย่าให้บ้านมีช่องว่าง

หากบ้านนั้นมีช่องว่างนั้นจะทำให้บ้านนั้นต้องเจอกับค่าไฟที่เพิ่มากขึ้น เนื่องจากแอร์ของเรานั้นอาจจะซึมออกไปข้างนอกได้ หรือ อากาศจากภายนอกอาจจะซึมเข้ามาได้ ดังนั้นหากว่าจะเปิดแอร์ก็ต้องระวังเรื่องช่องว่างสักหน่อยนะครับ 

เลือกซื้อแอร์ที่ได้มาตรฐาน

แอร์ที่ดีนั้นควรมีมาตรฐานดังนั้นนอกจากเราจะต้องหาร้านแอร์ที่ใกล้บ้านเช่นร้าน แอร์ สมุทรปราการ หรือร้านแอร์จังหวัดอื่น ๆ แล้ว เรายังต้องเลือกแอร์มีมาตรฐาน มีฉลากประหยัดไฟ เพื่อที่บ้านของเราจะได้ไม่ต้องเจอกับค่าไฟที่มารุ่งพุ่งแรง 

เลือกร้านที่ใกล้บ้าน 

สุดท้ายคือเราควรเลือกร้านแอร์ที่ใกล้บ้านเรา เช่น ร้าน แอร์ สมุทรปราการ ร้านแอร์ กรุงเทพมหานคร เพื่อที่จะได้สะดวกต่อการขนส่ง และ ประกันสินค้า 

ดังนั้นหากว่าไม่ว่าจะซื้อแอร์ ไม่ว่าจะเป็นร้าน แอร์ สมุทรปราการ ก็ควรเลือกร้านแอร์ที่ดี ๆ เลือกแอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟ จะได้ไม่ต้องเจอกับค่าไฟที่สูงขึ้นนะครับ 

หากให้แนะนำแว่นกันแดดยี่ห้อไหนดี แว่นกันแดดแบรนด์ไทยน่าจะเป็นคำตอบที่ได้ในวันนี้ อีกหนึ่งผลงานที่คนไทยทำออกมาได้ไม่แพ้ชาติใดในโลก ทั้งคุณภาพและดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ใช้งานได้ตอบโจทย์ตรงตามสรีระคนเอเชีย ใส่ง่ายราคาประหยัด ในเมื่อเป็นผลงานที่คนไทยตั้งใจทำ แล้วคนไทยด้วยกันจะไม่ลองใช้ได้อย่างไร ถอดแว่นตาเรย์แบน หรือ แว่น Oakley คู่ใจวางไว้ข้าง ๆ ก่อนสักครู่ แล้วเปิดใจทำความรู้จักแว่นกันแดดสัญชาติไทยที่รับประกันได้เลยว่าใส่แล้วจะติดใจกลับมาซื้อซ้ำแน่นอน

1.Deck Funglasses By โจอี้ บอย

ใครที่โตมากับเพลง “กากีนั้ง” ต้นกำเนิดเพลงฮิปฮอปเมืองไทย ต้องรู้จักเฮียเขาเป็นอย่างดี กับ โจอี้ บอย แร็ปเปอร์อันดับต้น ๆ ของไทย ที่มักปรากฏตัวพร้อมกับแว่นตาหลากหลายแบบหลากหลายสไตล์ แต่รู้หรือไม่ว่าแว่นตาเหล่านั้นเฮียเขาไม่ได้ซื้อ แต่เขาเป็นผู้ผลิตและเปิดขายเป็นแบรนด์ของตัวเอง ภายใต้ชื่อ Deck Funglasses By โจอี้ บอย โดยผลงานส่วนมากจะดีไซน์ออกมาภายใต้คอนเซ็ปต์ Street Sport Smart ที่ผสมผสานเป็นเนื้อเดียวกัน ตัวกรอบแว่นทำจากไม้สเก็ตบอร์ด งานทำมือที่กลายเป็นแรร์ไอเทมสินค้าหายากที่นักสะสมแว่นต้องมี

2.Rosemanclub Eyewear

ที่สุดแห่งความคลาสสิกของแว่นตาที่สร้างสรรค์งานด้วยสองสาวดีไซน์เนอร์ที่มอบความรักให้กับแว่นตา และมองเห็นความสำคัญของแว่นที่กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต โดยสินค้าภายในร้านเน้นกลุ่มลูกค้าผู้ชายที่ออกแบบให้สามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาก็ยังคงความดูดีมีสไตล์สุดคลาสสิกนี้ไว้ในทุกห้วงเวลา แนวคิดนี้ทำให้ Rosemanclub ประสบความสำเร็จเป็นนำการส่งออกสินค้าประเภทแว่นตาไปยังต่างประเทศในแถบยุโรป อย่างปารีส ลอนดอน และเวียนนา ก็สามารถตีตลาดกลายเป็นยี่ห้อแว่นกันแดดผู้ชายแบรนด์ไทยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง นอกจากนี้ทางร้านยังได้ขยายตลาด ผลิตสินค้าอื่นนอกจากแว่นกันแดดจัดจำหน่ายทั้งในไทยและส่งออกต่างประเทศ อาทิ รองเท้า กระเป๋า เสื้อผ้าสำหรับคุณสุภาพบุรุษ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีมากเช่นกัน

3.Yuckube

ยักษ์คิ้วบ์ แบรนด์เข้มแข็งแต่น่ารัก ถ้าถามถึงแว่นกันแดดยี่ห้อไหนดี ไม่แพง สัญชาติไทย ยักษ์คิ้วบ์ตอบได้ทุกโจทย์อย่างตรงประเด็นสุด ๆ ด้วยความรักที่มีต่อแว่น ทำให้เจ้าของแบรนด์เกิดความคิดที่ว่าอยากสร้างแบรนด์แว่นไทยให้เป็นที่ยอมรับในหมู่คนไทย เปลี่ยนมุมมองและทัศนคติว่าแว่นไทยดีสู่แว่นนอกไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ทุกขั้นตอนการผลิตแว่นกันแดดของทางร้าน จึงใส่หัวใจลงไปเน้นรายละเอียด และความประณีตในการออกแบบทุกขั้นตอนอย่างจริงใจ

4.Eraone Sunglasses

เอราวัน แว่นแบรนด์ไทยเพื่อคนไทย ด้วยใจที่อยากให้คนไทยได้ใส่แว่นกันแดดที่ดีมีคุณภาพสู้แดดที่ร้อนระอุในไทยได้ ประกอบกับความรักและหลงใหลที่เจ้าของร้านมีต่อแว่นกันแดดมานมนาม ทำให้พัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาได้ตรงใจ ใส่แล้วดูเท่ หรูหรา ทันสมัย แถมมาในราคาที่คนไทยเป็นปลื้ม เป็นอีกหนึ่งแบรนด์แว่นไทยที่จัดอยู่ในลิสต์คำตอบแว่นกันแดดยี่ห้อไหนดี 2019 การันตีได้จากกระแสความนิยม และเสียงตอบรับที่ดีเกินคาด

5.ARTY&FERN Eyewear

จากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก ธุรกิจแว่นตาของครอบครัวทำให้ผู้สืบทอดหันมาลงมือทำอย่างเต็มตัวด้วยใจที่รักแว่นตาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงได้ก่อตั้งแบรนด์ตามชื่อของตัวเอง อาร์ตและเฟิร์น ที่เปิดร้านด้วยความรู้สึกใจเขาใจเรา แว่นตาควรเป็นสิ่งที่เจ้าของสามารถมีส่วนร่วมในการออกแบบและเลือกแบบที่ต้องการเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องซื้อแต่แบบสำเร็จ จึงได้เปิดร้านผลิตแว่นแบบ Custom made ชิ้นต่อชิ้น เพื่อให้ได้แว่นที่ตรงใจลูกค้ามากที่สุด เป็นอีกร้านที่ตอบโจทย์สาว ๆ ยุคใหม่หัวใจดีไซน์เนอร์ได้เป็นอย่างดี ถ้าถามว่าแว่นกันแดดผู้หญิง 2019 ยี่ห้อไหนดีที่สุด เวลานี้คำตอบคงหนีไม่พ้น ARTY&FERN Eyewear แน่นอน

อ่านมาถึงตรงนี้คงพอได้คำตอบกันแล้วว่าแว่นกันแดดยี่ห้อไหนดี เหมาะแก่การหาซื้อมาใช้งาน จะเห็นได้ว่ามีแว่นแบรนด์ไทยมากมายที่เติบโตก้าวไกลโด่งดังถึงต่างประเทศ และอีกหลายแบรนด์ที่เข้าไปนั่งอยู่ในใจคนไทยได้สำเร็จ หากคุณเป็นอีกคนที่หลงใหลการใส่แว่นกันแดด อย่าลืมเก็บแบรนด์ไทยเหล่านี้ไว้ในอ้อมใจ ลองหาซื้อมาใส่สักอัน แล้วจะรู้ว่าวลี “คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก” นั้นเป็นเรื่องจริงที่ไม่อิงนิยาย

ช้อป 8.8 Home & Living Sale รับโค้ดส่วนลดสูงสูง 888 บาท! พร้อมคอลเลคชั่น Shopee 9 บาททุกชิ้น ทุกวัน ลูกค้าใหม่รับโค้ดส่วนลดสุดปัง 88%! ช้อปเท่าไหร่ก็ส่งฟรีทั่วประเทศ เริ่ม 24 กรกฎาคม – 8 สิงหาคมนี้!

เพลิดเพลินกับหลากหลายโปรโมชั่นตลอดแคมเปญ 8.8 สินค้า Home & Living แบรนด์ดังลดสูงสุด 50% ทุกวันกับ Million Brand Discount Crazy Price Drop และยังช้อปคุ้มๆ กับคอลเลคชั่นสินค้าราคา 9 บาททุกชิ้นได้ทุกวันในเวลา 9 โมงเช้าและ 3 ทุ่ม ช้อปปั๊ปรับ Coin Cashback สุดอลังสูงสุด 88%! ห้ามพลาด Shopee เกมเศรษฐีแจกกว่า 8,888,888 THB ยิ่งเล่นยิ่งคุ้ม!

การออกแบบตกแต่งภายใน ถือเป็นหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญเช่นกัน เพราะการออกแบบตกแต่งภายในช่วยทำให้ภาพรวมของบ้านดูเป็นระเบียบเป็นสัดส่วนแล้วนั้น ยังไม่เพียงแต่สะท้อนรสนิยม ความสวยงาม ยังเพิ่มความคล่องตัวและสะดวกสบายต่อการใช้สอยพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างคุ้มค่า แม้จะมีพื้นที่จำกัดก็ตาม  

สำหรับสไตล์การออกแบบตกแต่งภายในยุคปัจจุบันที่กำลังมาแรงที่สุด 

• Minimalism Style 

สไตล์การตกแต่งที่เรียบง่าย ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น หากแต่มากด้วยประโยชน์ รวมไปถึงการเลือกใช้งานสิ่งของต่างๆ ตามความจําเป็นเท่านั้น ซึ่งจะถูกจัดวางอย่างมีระเบียบเรียบร้อย ตามปรัชญาแนวคิดที่ว่า “Less is More” แปลว่า “น้อยแต่มากด้วยประโยชน์” โดยเน้นประโยชน์ใช้สอยที่สอดคล้องกับการดำรงชีวิตประจำวัน โดยทางบริษัทออกแบบตกแต่งภายในส่วนใหญ่จะเลือกใช้โทนสีแบบโมโนโทนหรือสีอ่อนๆ เพื่อให้มีความสมดุลและความผ่อนคลาย 

• Vintage Style 

การผสมผสานกันระหว่างความคลาสิกของยุคก่อน ซึ่งนำมาผนวกกับรูปแบบของการออกแบบตกแต่งภายในที่อยู่ในยุคปัจจุบัน ที่ให้อารมณ์และความรู้สึกเหมือนได้ย้อนไปในยุค 60 และ 70 ซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความหวานผสมผสานความเรียบง่ายแต่ดูคลาสสิก โดยคงเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่บ่งบอกถึงสไตล์นี้อย่างชัดเจน ที่มีต้นกำเนิดมาจากอิตาลี และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน 

• Loft Style 

โดยทางบริษัทออกแบบตกแต่งภายในคำนึงถึงโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมภายในเป็นหลัก รวมทั้งจัดระเบียบของโครงสร้างและคงความเป็นโครงสร้างของคาน เสา เหล็กโผล่ ดูดิบๆ เน้นการวางพื้นที่แบบอิสระและทำให้ดูโปร่งโล่ง สร้างความโดดเด่น ความเท่ห์ ให้ห้องดูมีความทันสมัยมากขึ้น ที่ไม่ต้องเสริมเติมแต่ง ให้ความสำคัญกับเรื่องของการจัดวางตำแหน่งสิ่งของตกแต่ง ด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว 

• Modern Style 

เป็นสไตล์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างชัดเจน โดยจะยึดถือแบบความเรียบง่าย แต่ส่วนใหญ่จะจัดองค์ประกอบในแบบกราฟิกและเน้นใช้รูปทรงแบบเรขาคณิต ไม่ว่าจะเป็นสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม หรือแม้กระทั่งวงกลม มาใช้เป็นองค์ประกอบในการตกแต่ง และมีการนำเอาวัสดุใหม่ๆ ในยุคนั้นมาใช้ บริษัทออกแบบตกแต่งภายใน จะคำนึงถึงคุณค่า และศักยภาพการใช้งานของสิ่งต่างๆ ประหยัดวัสดุและแรงงานใน การก่อสร้าง  

หากต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตกแต่งภายใน สามารถดูได้ที่ https://www.usfurnish.com/ ซึ่งอย่างไรก็ตาม การจะเลือกออกแบบตกแต่งภายในอาคารหรือห้องต่างๆ ควรมีองค์ประกอบที่สอดคล้องกัน ไม่ว่าจะเป็นผนัง บานประตู เฟอร์นิเจอร์ ตู้ เตียง โต๊ะ ต่างๆ เพื่อให้เกิดความบาลานซ์และสมดุลลงตัวเป็นแบบเดียวกันนั่นเอง